ฟิลเลอร์ คือ สารเติมเต็มผิวประเภทไฮยาลูโรนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) หรือ HA ที่มีความปลอดภัย ผ่านการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ซึ่งด้วย 5 คุณสมบัติเด่น จีงทำให้การฉีดฟิลเลอร์ในคลินิกเสริมความงามเป็นที่นิยมมากขึ้นในปัจจุบัน
- เติมเต็มร่องลึก หรือเสริมในชั้นผิวหนังและใต้ผิวหนัง
- ลดริ้วรอย และชะลอการเกิดริ้วรอยในอนาคตได้
- ปรับรูปหน้าได้อย่างเป็นธรรมชาติ
- กักเก็บความชุ่มชื้น ฟิลเลอร์หน้าใส เพิ่มความยืดหยุ่นให้ผิว
- ช่วยให้ผิวเรียบเนียน เต่งตึง และดูอ่อนเยาว์
ฟิลเลอร์เหมาะกับการฉีดบนใบหน้า ฉีดฟิลเลอร์ทั้งหน้าบริเวณใต้ตา ร่องแก้ม ปาก คาง ขมับ ร่องแก้ม แก้มตอบ และหน้าผาก ฉีดฟิลเลอร์กี่วันเห็นผล หลังฉีดเห็นผลทันที ไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น สามารถเติมและปรับแต่งได้เรื่อย ๆ เนื่องจากฟิลเลอร์สลายได้เองตามธรรมชาติ ไม่ทิ้งสารตกค้างในร่างกาย
การฉีดฟิลเลอร์ยังเป็นหัตถการที่สามารถทำร่วมกับหัตถการอื่น เช่น โบท็อก, ร้อยไหม หรือใช้เครื่องมือ เช่น Hifu, Ulthera และ Thermage เพื่อผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น ก่อนฉีดฟิลเลอร์หมอจะประเมินปัญหาผิวของแต่ละคน และเลือกวิธีที่เหมาะสม เพื่อผลลัพธ์ที่ดี ดูเป็นธรรมชาติ และตรงกับความต้องการ
ฟิลเลอร์มีกี่ประเภทหลัก ๆ แล้ว ฟิลเลอร์ที่ใช้เพื่อเสริมความงามจะมีด้วยกันอยู่ 2 ประเภท ดังนี้
- Permanent Fillers เป็นฟิลเลอร์ที่อยู่แบบถาวร ไม่สามารถสลายได้ หรือเป็นฟิลเลอร์ปลอมที่ไม่ผ่าน อย. เช่น Biosynthetic Polymers จำพวกซิลิโคนเหลว, Calcium Hydroxylapatite, Polymethylmethacrylate ฉีดแล้วแข็งเป็นก้อน ฟิลเลอร์ไหล หรือกลายเป็นพังผืด ต้องผ่าออก หรือขูดออกเท่านั้น ซึ่งหมอไม่แนะนำให้ใช้
- Non Permanent Fillers เป็นฟิลเลอร์ หรือสารเติมเต็ม Hyaluronic Acid (HA) ไฮยาลูรอนหรือกรดไฮยาลูรอนิค สามารถสลายได้ ผ่านอยฺ.ไทย มีความปลอดภัย ได้รับความนิยมและใช้กันอย่างแพร่หลาย โดยหลังฟิลเลอร์สลายสามารถฉีดเติมใหม่ได้เรื่อย ๆ
HA (Hyaluronic Acid) เป็นฟิลเลอร์ที่ปลอดภัยและได้รับความนิยมมากที่สุด มีใช้แพร่หลายทั่วโลกสามารถย่อยสลายได้เอง และฉีดเติมใหม่ได้เรื่อย ๆ เพราะโดยปกติแล้วร่างกายของคนเรามี สาร Hyaluronic Acid อยู่ในผิวหนัง เมื่อเรามีอายุมากขึ้น จำนวนคอลลาเจนก็ลดน้อยลง ผิวหนังชั้น SMAS ก็เปลี่ยนไป และ Retaining ligaments หรือเส้นเอ็นยึดผิวต่าง ๆ ก็หย่อนคล้อยลง เราจึงสร้างสิ่งอื่นขึ้นมาทดแทน และสิ่งนั้นฟิลเลอร์นั่นเอง