เดี๋ยวนี้เวลาเราไปเที่ยวต่างจังหวัดหรือไปเที่ยวต่างประเทศ ในบางครั้งก็ไม่อยากเอารถของเราไปเอง เพราะกว่าจะเดินทางขับรถไปถึงจังหวัดนั้นๆ ก็กินน้ำมันอยู่นะครับ หรือถ้าไปเที่ยวต่างประเทศก็คงอยากได้ความเป็นอิสระและความส่วนตัวมากกว่าการเดินทางโดยรถสาธารณะ ทำให้บริการรถเช่าเป็นที่ต้องการของใครหลายๆคน ทั้งนี้ทั้งนั้น หากเราได้ดีลที่ยังไม่คุ้มค่าพอ ก็อาจจะไปเพิ่มต้นทุนหรือค่าใช้จ่ายในการขับรถเที่ยวของเราได้ครับ ถ้าหากเพื่อนๆยังไม่ได้ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับบริษัทรถเช่าให้ดีๆ ก็อาจติดกับดักต้องจ่ายเงินค่าเช่ารถในราคาที่สูงได้ วันนี้เราจึงมีเคล็ดลับดีๆ ที่ทำให้เพื่อนๆสามารถหาดีลที่คุ้มค่าที่สุดมาฝากกันครับมีอะไรบ้างไปดูกันเลย
1.เลิกหารถเช่ากับบริษัททัวร์และตามสนามบินได้แล้ว
นั่นเป็นเพราะว่า บริษัททัวร์และสนามบินล้วนมีค่าคนกลางที่บริษัทรถต้องจ่ายให้ ทำให้เมื่อเราเช่ารถกับบริษัททัวร์ บริษัททัวร์ก็จะคอยชวนให้คุณเลือกรถคันที่แพงที่สุดเพื่อตนจะได้ค่าคอมมิชชั่น ในขณะที่หากเพื่อนๆไปเช่ารถตามสนามบิน บริษัทก็จะต้องเป็นผู้จ่ายค่าเช่าที่ให้กับสนามบินในราคาแพงหูฉี่ นั่นทำให้หากเป็นไปได้ เพื่อนๆควรพยายามหลีกเลี่ยงการหารถเช่าในทั้งสองสถานที่นี้นะครับ
2.เปรียบเทียบดีลต่างๆ
หากเพื่อนๆใช้เว็บไซต์เปรียบเทียบการรถเช่ากระบี่ก็จะเป็นประโยชน์ต่อเพื่อนๆเองมากเลยล่ะครับ เพราะว่าเว็บไซต์เหล่านี้ จะโชว์รายการรถทั้งหมดของบริษัทเช่ารถที่ในที่ต่างๆ แล้วจับมาอยู่ในหน้าจอเดียวกัน ทำให้เพื่อนๆสามารถเปรียบเทียบและหาดีลที่ถูกที่สุดได้อย่างง่ายดาย เว็บไซต์เปรียบเทียบรถเช่าเหล่านี้มีอยู่มากมายครับ เพียงแต่ว่าเพื่อนๆจะต้องแน่ใจว่าเว็บไซต์เหล่านั้นไม่ได้เก็บค่าจองรถ ค่าธรรมเนียมยกเลิก หรือให้เพื่อนๆจ่ายเงินไปก่อนตั้งแต่ต้น เพื่อนๆจะได้ไม่ต้องจ่ายเพิ่มหากบังเอิญไปเจอดีลที่ดีกว่าในภายหลังครับ
3.ตอนคืนรถให้เติมน้ำมันให้เต็ม
หลังขับรถเที่ยวหากตอนเพื่อนๆคืนรถเช่าแล้วไม่ได้เติมน้ำมันให้เต็ม บริษัทรถก็จะกลับมาเก็บค่าบริการเพิ่มเติมจากคุณอีกบานเลยละครับโดยบริษัทรถอาจจะเรียกเก็บเงินเป็นค่าน้ำมันได้มากถึงเท่าตัว แถมยังมีการเพิ่มเติมค่าจัดการลงไปอีก เพราะฉะนั้น จงอย่าลืมเติมน้ำมันให้เต็มก่อนคืนรถนะครับ แล้วก็อย่าลืมเก็บใบเสร็จไว้ด้วย เพื่อนๆจะได้มีหลักฐานว่าเพื่อนๆได้เติมน้ำมันให้เต็มแล้วจริงๆ
4.มองหาประกันการเดินทางต่างประเทศ
โดยส่วนใหญ่แล้ว รถเช่ามักมาพร้อมกับประกันแบบพื้นฐาน นั่นหมายความว่า ถ้าหากเกิดอุบัติเหตุระหว่างขับรถเที่ยว เพื่อนๆก็ยังคงต้องจ่ายค่าซ่อมรถเป็นจำนวนมากให้บริษัทอยู่ดี ในบางครั้ง บริษัทรถก็จะเสนอให้คุณจ่ายเพิ่มเพื่อจะได้ upgrade รูปแบบประกัน แต่ทางที่ดีให้เพื่อนๆลองไปเปรียบเทียบประกันเดินทางหรือบัตร เครดิตที่เหมารวมเอาบริการประกันรถยนต์ไว้ด้วย ก็จะช่วยประหยัดเงินของเพื่อนๆได้มากเลยล่ะครับ
5.กำหนดตารางเช่ารถให้ชัดเจน
โดยปกติแล้ว บริษัทรถเช่ามักจะคิดคำนวณการเช่ารถเป็นระยะเวลาภายใน 24 ชั่วโมง นั่นหมายความว่า ถ้าหากเพื่อนๆอยากใช้รถให้คุ้มค่าที่สุด ก็ไม่ต้องจองรถล่วงหน้าถ้ายังไม่ต้องจำเป็นต้องใช้ครับ ถ้าหากเพื่อนๆต้องการรถไปขับรถเที่ยวในเวลาบ่ายโมงก็จองรถไว้ตอนเวลาบ่ายโมงเลยเพราะเวลาคืนรถเพื่อนๆก็จะได้มีเวลาคืนรถที่ยาวนานขึ้นครบ 24 ชั่วโมงพอดี เพราะว่าในบางครั้งหากเพื่อนๆค้นหารถเช่า แบบฟอร์มที่ให้กรอกค้นหาก็มักจะใส่เวลาเป็นในช่วง 9 โมงถึง 10 โมงเช้าไปเลย เพราะฉะนั้น ให้ลองเช็คช่วงเวลาเหล่านี้ให้ดีๆว่าเพื่อนๆต้องการจะใช้รถในเวลาไหนจริงๆ นอกจากนี้แล้วหากเพื่อนๆจะคืนรถช้ากว่าปกติ ส่วนใหญ่บริษัทก็จะอนุญาตให้เพื่อนๆส่งรถช้าได้ไม่เกิน 30 นาทีถึง 1 ชั่วโมง ก็เพียงแค่ติดต่อไปทางบริษัทและบอกล่วงหน้าก่อนนิดนึงเพื่อจะได้ขอช่วงเวลาผ่อนผันตรงนั้นครับ
6.อ่านเงื่อนไขรถเช่าให้ดีๆ
เมื่อเพื่อนๆจะทำการเช่ารถแล้วขอให้อ่านเอกสาร ข้อกำหนดและเงื่อนไขให้ดีๆเพราะในบางบริษัทก็จะระบุไว้ว่าพื้นที่ไหนบ้าง ที่ไม่อยู่ในการดูแลของประกันหรือช่วงเวลาไหนบ้างที่ไม่ครอบคลุมในประกัน นั่นทำให้เพื่อนๆมีความเสี่ยง ว่าถ้าหากเกิดอุบัติเหตุในพื้นที่และเวลาที่ไม่ครอบคลุมแล้วเพื่อนๆก็อาจจะต้องจ่ายค่าประกันอีกโขเลยล่ะครับ เช่นถ้าหากเพื่อนๆ เกิดอุบัติเหตุในช่วงเวลากลางคืน และอยู่ในพื้นที่นอกเมือง บริษัทก็อาจไม่รับผิดชอบ เพราะฉะนั้นยังไงอ่านสัญญาให้ดีๆนะครับ
7.ไปส่งรถ ณ จุดที่ขับออกมา
คนส่วนใหญ่มักไปส่งรถเช่า ณ จุดส่งรถที่ตัวเองสะดวกที่สุด เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเดินทางกลับไปกลับมา แต่อย่างไรก็ตาม เพื่อนๆสามารถทำให้การขับรถเที่ยวโดยการเช่ารถเป็นเรื่องที่ถูกลงได้ ด้วยการนำรถไปส่งคืo ณ จุดที่เพื่อนๆเอาออกมานั่นเอง เนื่องจากว่าถ้าหากเพื่อนๆส่งรถในที่ที่แตกต่างออกไป บริษัทก็จะต้องมีค่าใช้จ่ายในการย้ายรถคันนั้นกลับมาที่จุดจอดเช่นเดิม ทำให้เพื่อนๆต้องรับภาระค่าขนย้ายรถคันนั้นรวมอยู่ในค่าใช้จ่ายทั้งหมดไปแทน